งบการตลาดที่พักจำกัด ทำยังไงให้จบ ครบ เสร็จ — คอนเทนต์ ยิงแอด และแคมเปญสร้างสรรค์

ในยุคที่การแข่งขันของโรงแรม รีสอร์ต และวิลล่ามีมากขึ้นทุกปี งบการตลาดกลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดอย่างรอบคอบ ทุกบาททุกสตางค์ต้องสร้างผลลัพธ์ได้จริง หลายโรงแรมอาจรู้สึกว่างบน้อยคือข้อจำกัด แต่ในความเป็นจริง หากเข้าใจวิธีใช้เครื่องมือออนไลน์ให้ถูกทาง งบน้อยก็สามารถสร้างยอดจองและผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล

การตลาดที่ดีไม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก หากแต่ต้อง “วางระบบให้ครบ” และ “เข้าใจตลาดของตัวเอง” เพราะกลยุทธ์ที่แม่นยำสำคัญกว่าการใช้เงินจำนวนมากโดยไม่มีทิศทาง

เข้าใจตลาด เข้าใจแขกเป้าหมาย

โรงแรมที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เพราะยิงแอดเยอะ แต่เพราะเข้าใจว่าใครคือแขกของตนเอง นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมและช่องทางที่แตกต่างกัน

• นักเดินทางต่างชาติ (ยุโรป / ออสเตรเลีย): ส่วนใหญ่เริ่มจากการค้นหาที่พักบน Google พวกเขามองหารีวิว ความน่าเชื่อถือ และประสบการณ์จริงนักท่องเที่ยวไทยและเอเชีย: ใช้ Facebook และ Instagram เป็นแหล่งค้นหา เห็นภาพ เห็นโปรโมชัน แล้วตัดสินใจทันที

• ทุกตลาดรุ่นใหม่: ใช้ TikTok เพื่อดูวิดีโอแรงบันดาลใจจากบรรยากาศจริง และรีวิวการเข้าพักเมื่อเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้ การสื่อสารก็จะตรงเป้าหมายมากขึ้น ไม่ต้องกระจายงบกว้าง แต่ได้ผลลัพธ์ที่ลึกและมีประสิทธิภาพ

คอนเทนต์ที่ดี = คอนเทนต์ที่ขายได้

คอนเทนต์ที่ดีไม่จำเป็นต้องมีโปรดักชันหรู แต่ต้อง “มีเรื่องราวและความรู้สึก” การเล่าผ่านภาพและวิดีโอที่จับต้องได้ช่วยให้แขกอยากมาพักจริง เช่น ภาพของการตื่นเช้าพร้อมวิวทะเล , กลิ่นกาแฟยามเช้าในรีสอร์ต และ เสียงคลื่นเบา ๆ ที่ทำให้รู้สึกถึงความสงบ

เมื่อเนื้อหาดี ก็สามารถนำไปใช้ซ้ำในหลายช่องทาง ทั้ง Facebook, Instagram, TikTok และ Google Display เพื่อเพิ่มการมองเห็นโดยไม่ต้องเพิ่มงบ

เลือกใช้แพลตฟอร์มให้เหมาะกับตลาด

การยิงแอดที่ได้ผล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับงบมากหรือน้อย แต่อยู่ที่การเลือกใช้ให้ถูกตลาด

• Facebook (Local Market): เหมาะกับตลาดภายในประเทศ ใช้สร้างยอดจองระยะสั้นและโปรโมชันเฉพาะช่วง

• TikTok (Awareness & Consideration): ใช้สร้างแรงบันดาลใจผ่านวิดีโอที่เล่าเรื่องจริงของการเข้าพัก ทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติGoogle Ads (EU & Australia): สำคัญมากสำหรับตลาดต่างประเทศ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักเริ่มจาก Search และรีวิว การทำ Google Ads ควบคู่ SEO/AEO ทำให้โรงแรมปรากฏในผลการค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์ของ PlaceSpace คือการผสานทุกแพลตฟอร์มเข้าด้วยกันอย่างมีระบบ เพื่อให้แบรนด์โรงแรมของคุณสื่อสารกับแขกเป้าหมายได้ครบทุกจุด — จากแรงบันดาลใจจนถึงการจองจริง

สร้างแบรนด์ด้วยแคมเปญที่มีเรื่องราว

การตลาดที่คุ้มค่าคือการสร้าง “แคมเปญที่สื่อสารตัวตนของแบรนด์” ไม่ใช่แค่การลดราคา แคมเปญสร้างสรรค์ของโรงแรมควรบอกเล่าอารมณ์และจุดแข็ง เช่น

• “Hidden Gem Escape” สำหรับรีสอร์ตที่เน้นความสงบ

• “Book Now, Pay at Villa” สำหรับวิลล่าระดับพรีเมียม

• “Plan Longer, Save More” สำหรับครอบครัวหรือตลาดต่างชาติที่นิยมพักยาว

แคมเปญแบบนี้ไม่เพียงสร้างยอดจอง แต่ยังสร้างภาพจำที่ทำให้แบรนด์ของคุณอยู่ในใจแขกไปอีกนาน

ตัวอย่างความสำเร็จจาก PlaceSpace Digital Service

รีสอร์ตระดับกลางแห่งหนึ่งในภูเก็ต เคยพึ่งพา OTA เกือบ 100% และไม่เคยทำการตลาดออนไลน์มาก่อน ไม่มีทีมดิจิทัล ไม่มีระบบติดตามข้อมูล แต่มีเป้าหมายชัดเจนว่าอยาก “เพิ่มยอดจองตรง” และ “ลดการพึ่ง OTA”

เมื่อเริ่มทำงานร่วมกับ PlaceSpace Digital Service ทีมของเราได้วิเคราะห์ตลาดและกลุ่มแขกเป้าหมายอย่างละเอียด พร้อมสร้างคอนเทนต์ใหม่ที่เล่าเรื่องผ่านภาพจริงและวิดีโอแนวประสบการณ์ จากนั้นเปิดแคมเปญ Facebook และ Instagram Ads เพื่อกระตุ้นตลาดภายในประเทศ เสริมด้วย Google Ads สำหรับนักท่องเที่ยวจากยุโรปและออสเตรเลีย รวมถึงใช้ TikTok Ads เพื่อสร้างการรับรู้ในตลาดใหม่ผ่านวิดีโอแรงบันดาลใจ

เพียง 60 วันหลังเปิดแคมเปญ โรงแรมแห่งนี้มียอดจองตรงเพิ่มขึ้นกว่า 250% จากที่ไม่เคยทำการตลาดออนไลน์มาก่อน อัตราการพึ่งพา OTA ลดลงกว่า 15% และการมีส่วนร่วมของเพจ (Engagement) เพิ่มขึ้นมากกว่า 200%  ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงสร้างยอดขายในระยะสั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของระบบการตลาดระยะยาวที่โรงแรมสามารถต่อยอดได้เองในอนาคต

งบน้อยไม่ใช่ข้อจำกัด ถ้าระบบครบและคิดเป็น

ในยุคดิจิทัล โรงแรมไม่จำเป็นต้องทุ่มงบก้อนใหญ่เพื่อให้เห็นผล สิ่งที่สำคัญคือ “กลยุทธ์ที่ถูกต้อง” และ “ระบบที่วัดผลได้จริง” เริ่มจากการเข้าใจตลาด วางเนื้อหาให้มีเรื่องราว เลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะกับแขกของคุณ และสร้างแคมเปญที่ทำให้คนอยากมาพัก ไม่ใช่แค่เห็นโฆษณาแล้วเลื่อนผ่าน

PlaceSpace Digital Service คือพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจโรงแรม รีสอร์ต และวิลล่าทุกระดับ เราช่วยวางระบบการตลาดครบวงจร ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ การยิงแอดหลายแพลตฟอร์ม ไปจนถึงการวิเคราะห์ผลแบบ Data-Driven เพื่อเปลี่ยน “งบจำกัด” ให้กลายเป็น “ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุด”