
PlaceSpace
ยอดจองที่พักทางตรงเพิ่มขึ้น
รายได้โตขึ้น 30% ต่อปี — ลดการพึ่งพา OTA ด้วยการตลาดออนไ ลน์ AI ข้อมูล คอนเทนต์
.jpg)
พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในยุคดิจิทัลเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แขกค้นหาที่พักจากหลายแพลตฟอร์ม เปรียบเทียบราคาได้ในไม่กี่วินาที และตัดสินใจจาก “คอนเทนต์ที่รู้สึกเชื่อมโยง” มากกว่าราคาเพียงอย่างเดียว แต่โรงแรมจำนวนมากยังคงพึ่งพา OTA ในการขายหลัก เสียค่าคอมมิชชัน 15–30% ต่อการจอง และไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าที่แท้จริงได้ แนวทางใหม่จึงไม่ใช่ “การโฆษณาให้มากขึ้น” แต่คือ “การทำการตลาดให้ชาญฉลาดขึ้น” ด้วยข้อมูล (Data) การใช้ AI และคอนเทนต์ที่สื่อสารได้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายจากประสบการณ์ของ PlaceSpace ผู้เชี่ยวชาญด้าน Performance Marketing สำหรับโรงแรมและวิลล่า เราพบว่าสูตรสำเร็จของการตลาดยุคนี้คือการผสาน “Data + Creative + Digital Strategy” เพื่อขับเคลื่อนยอดจองตรงและรายได้อย่างยั่งยืน
เข้าใจแขกด้วย “ข้อมูล” ไม่ใช่การคาดเดา
ก่อนบูสแอด ยิงแอด หรือทำโปรโมชัน สิ่งสำคัญคือ “เข้าใจแขกให้ลึก” ใครคือกลุ่มลูกค้าหลัก พวกเขามาจากประเทศไหน ช่วงที่เข้าพัก และอะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาจอง เมื่อโรงแรมใช้ข้อมูลจริงจากพฤติกรรมการค้นหา การจอง และการเข้าพัก จะเห็นภาพชัดว่า ควรสื่อสารด้วยข้อความแบบไหน ขายช่วงเวลาไหน และยิงแอดในช่องทางใดจึงจะคุ้มค่าที่สุด Data-Driven Marketing ทำให้ทุกงบที่ใช้ “วัดผลได้จริง” ไม่ใช่การเสี่ยงดวง
เข้าใจตลาดและประเภทที่พัก
แต่ละจุดหมายปลายทางมีลักษณะนักท่องเที่ยวแตกต่างกันอาทิ 1.) ภูเก็ต สมุย กระบี่ ดึงดูดกลุ่ม Luxury และ Wellness 2.)พัทยา หัวหิน เหมาะกับตลาดคนไทย และกลุ่มเพื่อนเที่ยว 3.) เชียงใหม่ เขาใหญ่ มักดึงดูดสายธรรมชาติ ป่าเขา 4.)ส่วนโรงแรมในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ มักเจาะกลุ่ม Business และ MICE ขณะเดียวกัน ประเภทของที่พักก็ส่งผลต่อกลยุทธ์การสื่อสาร รีสอร์ตหรูต้องเน้นอารมณ์และประสบการณ์ บูทีคโฮเทลควรเน้นดีไซน์และคาแรกเตอร์ โรงแรมธุรกิจต้องสื่อสารความสะดวกและคุ้มค่า เมื่อเข้าใจสิ่งเหล่าน ี้ การตลาดจะไม่กระจายไร้ทิศ แต่ “เข้าตรงใจและตรงเวลา”
AI ผสานความคิดสร้างสรรค์
ข้อมูลให้ทิศทาง แต่ “คอนเทนต์ที่ดี” คือสิ่งที่ทำให้แขกรู้สึก AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรม ทำนายดีมานด์ และปรับงบอัตโนมัติ ส่วนทีมครีเอทีฟใช้ข้อมูลนั้นมาสร้างภาพ เรื่องราว และข้อความที่ “มีอารมณ์และเชื่อมโยง” เมื่อเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ทำงานร่วมกัน ผลลัพธ์คือแคมเปญที่ “แม่นยำ มีความหมาย และทำให้เกิดการจองจริง”
ใช้ช่องทางดิจิทัลให้เหมาะกับตลาด
นักเดินทางแต่ละกลุ่มใช้แพลตฟอร์มต่างกัน ผู้จองในเอเชียมักอยู่บน Facebook, Instagram, LINE กลุ่มยุโรปและออสเตรเลียใช้ Google Ads และ Native Ads ตลาดตะวันออกกลางนิยม TikTok และ Programmatic Video ส่วนตลาดรัสเซียและ CIS ใช้ Yandex และ VK Ads การเลือกช่องทางให้เหมาะกับพฤติกรรมผู้จองแต่ละตลาด ช่วยลดต้นทุน เพิ่ม Conversion และสร้างยอดจองตรงได้จริง
ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้
โรงแรม วิลล่า รีสอร์ท ที่พักที่ใช้แนวทางนี้สามารถเห็นผลชัดเจน
-
ยอดจองตรงเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ภายใน 3 เดือนแรก
-
รายได้เติบโตสูงสุด 30% ภายใน 1 ปี
-
ลดต้นทุนโฆษณาและการพึ่งพา OTA
-
สร้างแบรนด์ออนไลน์ที่แข็งแรงและยั่งยืน
ทั้งหมดเกิดจากการทำการตลาดอย่างมี “กลยุทธ์” มากกว่าการยิงแอดแบบเดิม
ก้าวต่อไปของโรงแรม รีสอร์ท
วิลล่ายุคดิจิทัล
อนาคตของการตลาดโรงแรม รีสอร์ท วิลล่า คือ “การเป็นเจ้าของช่องทางการจองที่พักของตัวเอง” เมื่อข้อมูล คอนเทนต์ และกลยุทธ์ดิจิทัลทำงานร่วมกัน โรงแรม ที่พัก จะควบคุมรายได้ได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับแขกอย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์ของ PlaceSpace ในการช่วยโรงแรมและวิลล่าเติบโตอย่างยั่งยืน เราเห็นผลลัพธ์ชัดเจน — รายได้ตรงเพิ่มขึ้น 15% ภายใน 3 เดือน และกว่า 30% ภายในหนึ่งปี พร้อมลดต้นทุนการตลาดและการพึ่ง พา OTA อย่างต่อเนื่อง
More Direct Bookings. More Revenue. Less OTA แนวทาง “Creative & Digital Way” ที่เปลี่ยนคอนเทนต์ให้กลายเป็นผลลัพธ์จริง
รับข้อเสนอจากเราเพื่อเพิ่มยอดจองที่พักทางตรงเพิ่มขึ้นรายได้โตขึ้น 30%